4 วิธีการเลือก WordPress Theme ที่ดี พร้อมวิธีการติดตั้ง

4 วิธีการเลือก WordPress Theme ที่ดี พร้อมวิธีการติดตั้ง

การเลือก WordPress Theme เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะจะส่งผลต่อการเรียกใช้งานเว็บไซต์ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อประสบการณ์การของผู้ใช้งาน การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress เป็นวิธีที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจาก WordPress คือแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสร้างเว็บไซต์ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงธีมความหมายของธีมและวิธีการเลือกธีมเวิร์ดเพรสอย่างไรให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ

สารบัญ

WordPress Theme หมายถึงอะไร ?

Theme คือ รูปแบบการออกแบบสำหรับเว็บไซต์ที่ใช้กับระบบจัดการเนื้อหาบน WordPress ซึ่งมีหลายรูปแบบและมีคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น Responsive Design, Customization Options, และ Speed Optimization ในการช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพและมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อผู้ใช้งาน โดยสามารถดาวน์โหลดจากผู้ให้บริการ Theme WordPress ที่มีธีมฟรีสวย ๆ ให้เลือกมากมายหรือจะสร้างธีมเองจากโปรแกรมสร้าง Theme WordPress ก็ได้เช่นกัน 

Theme2

4 วิธีการเลือก Theme ที่เหมาะสม

Theme ที่ดีและเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ มีขั้นตอนการเลือก ดังต่อไปนี้ 

1. ตั้งเป้าหมายของเว็บไซต์

ก่อนที่จะเลือก Theme คุณควรตั้งเป้าหมายของเว็บไซต์ก่อน โดยกำหนดว่าเว็บไซต์ของคุณจะเป็นเว็บไซต์ประเภทใด เช่น เว็บไซต์ข่าว, ร้านค้าออนไลน์, หรือเว็บบล็อกส่วนตัว เพื่อให้สามารถเลือก Theme ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้อง เช่น หากคุณทำเว็บไซต์เเกี่ยวกับร้านค้า ก็ควรที่จะเลือก Theme WordPress ขายของ เพราะจะมีฟังก์ชั่นที่เตรียมไว้สำหรับลงสินค้า มากกว่า Theme WordPress ประเภทอื่น ๆ 

2. ค้นหาและเลือก Theme

หลังจากตั้งเป้าหมายของเว็บไซต์แล้ว คุณสามารถเลือก WordPress Theme ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเว็บไซต์ของคุณได้ โดยใช้งานฟังก์ชั่นการค้นหาบน WordPress.org หรือสามารถซื้อจากเว็บไซต์อื่น ๆ ก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม ควรเลือก Theme ที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับเป้าหมายของเว็บไซต์ของคุณ และต้องมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ โดยมีทั้ง Theme WordPress ฟรี และแบบที่มีค่าใช้จ่าย 

3. ทดสอบและปรับแต่ง Theme

เมื่อได้ Theme WordPress สวย ๆ ที่เหมาะสมกับของเว็บไซต์ของคุณแล้ว ควรลองเปิดดูหน้าเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของ Theme ว่ามีการแสดงผลในแบบที่คุณต้องการหรือไม่

4. ตรวจสอบและอัปเดต Theme

คุณควรหมั่นดูแลรักษา Theme ให้มีประสิทธิภาพ โดยการตรวจสอบการอัปเดตและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และอัปเดตเมื่อมีเวอร์ชันใหม่ โดยจะต้องทำการสำรองข้อมูลก่อนการอัปเดตเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่สำคัญของเว็บไซต์ของคุณในอนาคต

​​คุณสมบัติของ Theme ที่ดี

Theme ที่ดีและเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ ควรมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ 

Theme4

Responsive Design

หน้าเว็บไซต์ที่มี Responsive Design จะประสบความสำเร็จในการเข้าถึงผู้ใช้งานโดยทั่วไป เพราะเว็บไซต์จะปรับแต่งหน้าเพจให้เหมาะสมกับขนาดของหน้าจอที่ผู้ใช้งานใช้ โดยไม่เกิดปัญหาการเรียกดูหน้าเว็บไซต์ที่ไม่ตรงกับขนาดหน้าจอของผู้ใช้งาน ดังนั้น การเลือก Theme ที่มี Responsive Design เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ 

Customization Options

Theme ที่มี Customization Options ที่เพียงพอสามารถช่วยให้คุณปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและสีต่าง ๆ ได้อย่างอิสระตามความต้องการ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง เพราะจะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

Speed Optimization

เว็บไซต์ที่มีความเร็วในการโหลดจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดี การเลือก Theme ที่มีการ Optimize ความเร็วนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและไม่เกิดปัญหาในการใช้งาน

การติดตั้ง Theme WordPress มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?

การติดตั้ง Theme ของ WordPress มีขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  1. เข้าสู่ระบบ WordPress ด้วยบัญชีผู้ใช้ของคุณ
  2. เลือก Theme ที่ต้องการติดตั้ง โดยสามารถติดตั้ง Theme ได้ทั้งจาก WordPress Theme Directory หรือผ่านการอัปโหลดไฟล์ Theme จากคอมพิวเตอร์ของคุณ
  3. เมื่อเลือก Theme เสร็จแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม “ติดตั้ง” เพื่อติดตั้ง Theme ลงใน WordPress
  4. เมื่อติดตั้ง Theme เสร็จแล้ว คุณสามารถปรับแต่ง Theme ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การเปลี่ยนสี, การเพิ่มโลโก้ เป็นต้น
  5. ตรวจสอบการแสดงผลของ Theme บนเว็บไซต์ WordPress ของคุณว่าแสดงผลได้อย่างถูกต้องตามความต้องการของคุณหรือไม่
  6. เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มต้นใช้งาน Theme บนเว็บไซต์ของคุณได้ทันที
Theme2

หากติดตั้ง Theme WordPress ไม่ได้ แก้ไขอย่างไร ?

การติดตั้งธีม WordPress อาจเกิดปัญหาไม่สามารถติดตั้งได้ จึงขอแนะนำวิธีการแก้ไขเบื้องต้น เมื่อไม่สามารถติดตั้งธีมได้ ดังต่อไปนี้

  1. ตรวจสอบว่าเวอร์ชันของ WordPress และ Plugin ที่ติดตั้งอยู่บนเว็บไซต์ของคุณถูกต้องหรือไม่ โดยเข้าไปที่หน้า Dashboard และตรวจสอบเวอร์ชันของ WordPress และ Plugin ว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือยัง
  2. หากมีไฟล์ธีมเก่าอยู่ใน WordPress ของคุณ แนะนำให้ทำการลบไฟล์เหล่านั้น เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการติดตั้งธีมใหม่
  3. ตรวจสอบข้อผิดพลาดที่ปรากฏขึ้นในการติดตั้งธีมว่าเป็นอะไร เช่น การสร้างไฟล์เปล่า, การติดตั้งไฟล์ธีมไม่สมบูรณ์ หรือการติดตั้งไฟล์ที่ไม่ตรงกับเวอร์ชันของ WordPress
  4. ใช้โหมด Debugging ของ WordPress เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งธีม โดยเปิดใช้งานโหมด Debugging จากไฟล์ wp-config.php และติดตั้ง Plugin Debugging เพื่อดูข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
  5. ถ้าวิธีการติดตั้งธีมผ่าน WordPress ไม่สำเร็จ คุณสามารถใช้วิธีการติดตั้งผ่าน FTP โดยโหลดไฟล์ธีมจากที่มาของธีมและอัปโหลดไฟล์ผ่านโปรแกรม FTP

ถ้าวิธีการทั้งหมดกล่าวมาก่อนหน้านี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้พัฒนาธีม เพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา

Theme3

สามารถดาวน์โหลดธีม WordPress ฟรีได้จากที่ไหน ?

คุณสามารถดาวน์โหลด Theme สวย ๆ ฟรีได้จากหลายแหล่ง แต่ก็ควรเลือกธีมที่เหมาะสมกับเนื้อหาและการใช้งานของเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีความสวยงาม และใช้งานได้ดีตามความต้องการของคุณ ซึ่งมีหลายเว็บไซต์ที่มีธีม WordPress ให้ดาวน์โหลด เราขอแนะนำเว็บไซต์ที่เราได้เลือกมาแล้ว โดยคุณสามารถค้นหาและโหลดธีม WordPress ฟรีได้ที่ 2 เว็บไซต์ ดังต่อไปนี้

  1. WordPress.org – เป็นสำนักงานศูนย์กลางของ WordPress ที่ให้บริการ WordPress Theme ฟรีสำหรับผู้ใช้งานโดยมีให้เลือกเป็นจำนวนมากและคุณภาพที่ดีด้วยเช่นกัน
  2. ThemeForest – เป็นตลาดออนไลน์ที่มีการขายธีม WordPress สวย ๆ ให้เลือกไปใช้งานมากมาย

7 รายชื่อธีมสวย ๆ ฟรี แนะนำ

WordPress Theme ฟรีที่มีความสวยงามและน่าใช้งานที่ขอแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน WordPress ได้แก่

  1. Astra: มีความน่าใช้งานและมีความยืดหยุ่น ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและง่าย
  2. OceanWP: มีการออกแบบที่น่าสนใจและใช้งานได้ง่าย มีฟีเจอร์การปรับแต่งสูง
  3. Neve: มีการออกแบบมาให้ดูสวยงามและใช้งานได้ง่าย สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย
  4. ColorMag: มีการออกแบบสำหรับเว็บไซต์ข่าวและวิทยากร มีฟีเจอร์การแสดงผลข่าวที่น่าสนใจ
  5. Zillah: เหมาะสำหรับบล็อกเกอร์และนักเขียน เน้นความเรียบง่ายและดูสวยงาม
  6. Ashe: มีการออกแบบที่น่าสนใจและสวยงาม มีฟีเจอร์การแสดงผลภาพและเนื้อหาที่น่าสนใจ
  7. Hestia: เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจและอื่น ๆ มีฟีเจอร์การปรับแต่งที่หลากหลาย
  8. Sydney: เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจและบริการต่าง ๆ มีฟีเจอร์การปรับแต่งที่ครอบคลุม

บทสรุป

การเลือก WordPress Theme สวย ๆ ที่เหมาะสมอาจจะต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์เปรียบเทียบและทดสอบก่อน การเลือกธีมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่สมบูรณ์ได้ และอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดี

นอกจากนี้ การรักษาและอัปเดตธีมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลของเว็บไซต์ของคุณในอนาคต ทั้งหมดนี้ก็คือสาระความรู้เกี่ยวกับธีม คืออะไร ? Theme WordPress แนะนำ และการสร้าง Theme WordPress ด้วยตัวเอง รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาในการติดตั้ง Theme อีกด้วย