• หน้าแรก
  • -
  • บทความ
  • -
  • ความแตกต่างระหว่าง SEM SEO คืออะไร ? วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

ความแตกต่างระหว่าง SEM SEO คืออะไร ? วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

ความแตกต่างระหว่าง SEM SEO คืออะไร ? วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง
ในยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว การทำการตลาดออนไลน์ผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต หรือ Search Engine Marketing คือเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ และสำหรับการตลาดออนไลน์นั้น การใช้เทคนิค SEO และ SEM เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก แต่ความแตกต่างระหว่าง SEO vs SEM นั้นยังมีผู้ใช้งานที่ยังอาจสับสนกันอยู่ ในบทความนี้จะมาอธิบายถึงความแตกต่างและวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

สารบัญ

SEM คืออะไร ?

SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing คือการใช้เครื่องมือการโฆษณาจากเครื่องมือการค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา (Search Engien) โดยใช้การโฆษณา (Advertising) จากเครื่องมือการค้นหา เช่น Google Adwords หรือ Bing Ads เทคนิค SEM จะมุ่งเน้นในการสร้างโฆษณาที่น่าสนใจและเป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจ เช่น การเลือกใช้คำสำคัญในการโฆษณา เลือกกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโฆษณา การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการโฆษณา โดย SEM เป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine Marketing ของธุรกิจในปัจจุบัน 

SEO vs SEM

SEO คืออะไร ?

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือ การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา (Search Engien) เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจและโปรโมทสินค้าหรือบริการของธุรกิจ โดยหลักการทำ SEO คือ การมุ่งเน้นการปรับแต่งหรือการเพิ่มคุณภาพของเนื้อหา การเพิ่มคำสำคัญ (Keyword) ในเนื้อหา เพิ่มความสม่ำเสมอในการใช้คำสำคัญ การสร้าง Backlink และการใช้ Meta Description ที่ถูกต้อง เพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจมีความน่าสนใจและได้รับการค้นหาอย่างต่อเนื่องในเครื่องมือการค้นหา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำ SEO เป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ของธุรกิจในปัจจุบัน

SEM vs SEO มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

SEM SEO คือ เทคนิคที่ใช้ในการปรับแต่งและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจในการตลาดออนไลน์ แต่ว่ามีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ 

วัตถุประสงค์

  • การทำ SEM คือ การใช้เครื่องมือการโฆษณาจากเครื่องมือการค้นหา เพื่อสร้างโฆษณาที่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
  • การทำ SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

เครื่องมือที่ใช้

  • การทำ SEM ใช้เครื่องมือการโฆษณาจากเครื่องมือการค้นหา เพื่อสร้างโฆษณาที่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา เช่น Google Adwords หรือ Bing Ads เป็นต้น
  • การทำ SEO ใช้เทคนิคการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา เช่น การทำ On-Page หรือ

ดังนั้น SEM vs SEO มีความแตกต่างกันในวัตถุประสงค์ของการใช้เครื่องมือ, รูปแบบของการโฆษณา, และค่าใช้จ่าย โดยการใช้ SEO จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ส่วนการใช้ SEM จะช่วยสร้างโฆษณาที่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การเลือกใช้ SEM หรือ SEO ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธุรกิจและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงเว็บไซต์ การใช้เทคนิคที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับธุรกิจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการตลาดออนไลน์ของธุรกิจ

วิธีการใช้งาน SEM ที่ถูกต้อง

  1. การเลือกคำสำคัญ (Keyword) ที่เหมาะสมกับเนื้อหา
  2. การเพิ่มความสม่ำเสมอ และการกระจายคำสำคัญ
  3. การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ
  4. การสร้าง Backlink เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในเว็บไซต์ของธุรกิจ
  5. การเพิ่มคุณภาพของเว็บไซต์ด้วยการปรับ On-Page และ Off-Page
  6. การใช้ Social Media ในการส่งเสริมการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจ
  7. การตรวจสอบผลการค้นหาและปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา

วิธีการใช้งาน SEO ที่ถูกต้อง

  1. การเลือกเครื่องมือการโฆษณาที่เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น Google Adwords หรือ Bing Ads
  2. การเลือกกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโฆษณา
  3. การเลือกคำสำคัญที่เหมาะสมกับโฆษณา
  4. การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการโฆษณา
  5. การสร้างโฆษณาที่น่าสนใจและเป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มลูกค้า
  6. การติดตามผลการโฆษณาและปรับปรุงโฆษณาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจ

SEM กับ SEO ควรทำอะไรดี ?

การทำ SEM หรือ SEO ไม่ได้มีคำตอบที่แน่ชัดว่าอันไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกลุ่มลูกค้าของธุรกิจ ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาในเครื่องมือการค้นหา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และต้องการเพิ่มคุณภาพเนื้อหาของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจสามารถเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำ SEO อาจจะเหมาะสมกับธุรกิจนี้มากกว่า

แต่ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการใช้เครื่องมือการโฆษณาจากเครื่องมือการค้นหา และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การทำ SEM อาจจะเหมาะสมกับธุรกิจนี้มากกว่า ดังนั้นการเลือกใช้เทคนิคใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกลุ่มลูกค้าของธุรกิจ

บทสรุป

SEM SEO คือ เทคนิคที่สำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ของธุรกิจ โดย SEO จะใช้เทคนิคการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหา หากธุรกิจต้องการให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา จะต้องใช้เทคนิคการทำ SEO โดยการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีคุณภาพสูง การสร้าง Backlink และการตรวจสอบผลการค้นหา

ส่วนหากธุรกิจต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจโดยการโฆษณา จะต้องใช้เทคนิคการทำ SEM โดยการใช้เครื่องมือการโฆษณา เช่น Google Adwords หรือ Bing Ads เพื่อสร้างโฆษณาที่เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ

การใช้ SEM และ SEO จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับธุรกิจจะต้องพิจารณาในแต่ละกรณีเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการตลาดออนไลน์ของธุรกิจ